เข็มทิศชีวิต
“แผนที่ดูจิต บริหารชีวิต สู่อิสรภาพการเงินและจิตใจ”
" ทุกคนมี “เข็มทิศ” ประจำจิตที่ชี้ไปยังความสุขที่แท้จริงตลอดเวลา แต่ผู้คนหาตระหนักไม่ว่าตนมีเข็มทิศดังกล่าว หรือไม่ก็ละเลยที่จะใช้เข็มทิศดังกล่าวให้เกิดประโยชน์ ผลก็คือชีวิตก้าวไปผิดที่ผิดทาง ถูกความทุกข์ท่วมท้น ผู้เขียนได้เสนอแนวทางการใช้เข็มทิศชีวิต ในการปรับภาวะทางอารมณ์ ให้สามารถดำรงชีวิตได้อย่างมีความสุข โดยแบ่งการเสนอเป็นภาค จำนวน ๗ ภาค โดยสังเขป ดังนี้
ภาคที่ ๑
หยุดทบทวนตัวเอง
หลายคนเหนื่อยเพราะเผลอไปวุ่นวายกับสิ่งต่างๆอยู่ตลอดเวลา
พอใจเหน็ดเหนื่อยปั่นป่วน ทำให้คิดมากแก้ปัญหาผิดที่
เราลองกลับมาพิจารณาดูเราว่าได้ทำความสุขหล่นหายไปจากใจ แล้วเที่ยวไปตามหาความสุขในที่ต่างๆ เช่นในบาร์
ในคลับ
ซึ่งแท้จริงแล้วมันไม่ใช่
หากแต่ว่าความสุขที่แท้จริงมันเกิดขึ้นที่ใจของเรานี้เอง
ถ้าลองสังเกตดูผู้คนมักจะดิ้นรนไขว่คว้าสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับชีวิต
ไม่ว่าจะเป็นเงินทอง รถยนต์ บ้าน
หรือแม้กระทั่งยศตำแหน่งและอำนาจ
เมื่อได้มันมาจะทำให้เรามีความสุขในระหนึ่ง
ความสุขเหล่านั้นจะอยู่กับเราไม่นาน
ก็จากไปเหลือไว้แต่ความทุกข์ที่จะตามมาเมื่อเรามีความอยาก ความต้องการเพิ่มขึ้นอีก อย่างไม่รู้จักพอไม่มีที่สิ้นสุด ลองหันกลับมาถามตัวเองว่าเราเกิดมาทำไม
ท่ามกลางความแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น เพื่อหวังว่าให้เราเหนือกว่าคนอื่น
แต่เราคงลืมนึกไปว่าสักวันหนึ่งเราต้องจากโลกนี้ไป
ดังนั้นก่อนที่เราจะก้าวเดินต่อไปเราควรหยุดทบทวนสำรวจตัวเองว่าทำอะไรเพื่อใคร
หรือว่า “ฟาดฟันกับคนอื่นทุกวิถีทาง
ภาคที่ ๒ รู้กฎของชีวิต ทั้งคนดีและคนไม่ดีก็ล้วนมีปัญหา มีหลายคนชอบช่วยเหลือผู้อื่น ทำบุญทำทาน
ตักบาตร สร้างวัด สร้างโรงเรียน แต่พอกลับถึงบ้านก็โกงคนอื่น แย่งชิงของคนอื่น
ส่งผลให้ชีวิตมีแต่ความวุ่นวาย ในทางกลับกันคนที่ถูกจัดว่าเป็นคนดี
ทำความดีมาตลอด แต่เมื่อถึงเวลาต้องตกงาน
อกหัก เจ็บป่วยไม่สบาย
คนดีๆก็มีทุกข์จนแทบเอาชีวิตไม่รอดเหมือนกัน
เมื่อรู้เช่นนี้แล้วแนวทางแก้ปัญหาต้องรู้จักฝึกตน ฝึกใจ
โดยการปฏิบัติธรรมคำนึงถึงคำสอนของพระพุทธเจ้า ที่ไม่ให้ยึดติดกับสิ่งใด
หากเรามองว่าเป็นของของเรา
ทุกข์ก็จะเป็นของเรา
ลองพิจารณาจิตใจของตัวเอง เพื่อฝึกความรู้สึกของตัวเอง ตามดูความรู้สึกนึกคิด
ของตัวเอง
เราจะพบว่าความรู้สึกนึกคิดร้ายๆจะเป็นความทรงจำที่ทิ่มแทงใจเราตลอดเวลา เปรียบเช่นควันไฟ ที่เกิดขึ้นและจางหายไปในที่สุด
รู้สึกถึงแรงผลักที่เกิดขึ้นในใจเราเห็นความไม่เที่ยงไม่เป็นแก่นสารของชีวิต
ภาคที่ ๓
วางใจให้ถูกต้อง ชีวิตไม่สามารถเลือกให้มีแต่สิ่งที่เราพอใจไม่ได้ แต่สามารถเลือกรู้ทันจิตใจตัวเองที่กำลังหยิบฉวยก้อนหนามมาทำร้ายตัวเอง เราสามารถจัดการกับปัญหาด้วยใจไม่ให้เกิดทุกข์
เราจะต้องเป็นผู้รู้ตลอดเวลา
อันเปรียบเหมือนเป็นเข็มทิศคอยกำกับชีวิตได้ตลอดเวลา เราต้องรู้ทันใจตัวเอง
รู้และเข้าใจธรรมชาติ รู้ทันความกลัววินาทีนี้เราลองสำรวจใจตัวเอง เราทนอยู่ทนทำ
ทนจมลงไปในวิถีชีวิตที่ไม่ต้องการเพราะกลัวอะไร
ภาคที่ ๔
กำหนดเป้าหมายให้ถูกต้อง
ความมีสติปัญญา คือ
กุญแจดอกสำคัญที่ทำให้หนทางชีวิตของมนุษย์แต่ละคนแตกต่างกัน
ต้องรู้จักความพอเพียง ชีวิตก็จะมีความสุขไม่ติดกับดักของชีวิต
ที่มักมองถึงความฟุ้งเฟ้อ การสร้างภาพลักษณ์ให้ดูดีในสายตาของคนอื่น
แต่เบื้องหลังเป็นภาระที่สร้างความหนักใจให้กับตัวเอง
หลายคนมักเกิดความผิดพลาดในการดำรงชีวิตเพราะคิดผิด
เพราะถูกหลอกทั้งที่รู้ว่าเขาหลอก
ภาคที่ ๕
ใช้ชีวิตให้ตรงเป้าหมาย
กำหนดเป้าหมายผิดพาชีวิตดิ่งเหว
ในขณะที่เป้าหมายถูกต้องแต่เดินผิดทิศก็พาชีวิตลงเหวเช่นกัน เราจึงต้องมีเข็มทิศไว้คอยตรวจสอบในสิ่งที่เราเลือกซื้อ
เลือกใช้ เลือกทำ
ว่าสอดคล้องกับเป้าหมายชีวิตและไม่ได้กำลังพาเราไปทิศทางตรงกันข้ามกับสิ่งที่เราต้องการ
วันนี้เราทุกข์กับสิ่งนอกตัวเราจนลืมชีวิตไปหรือเปล่า ลองสำรวจสิ่งที่เราเลือกมาใส่ไว้ในชีวิตว่าเป็นภาระมากกว่าความสุขหรือไม่
เช่นการเป็นหนี้เพื่อหาซื้อเพชรเม็ดโตมาใส่
หรือซื้อรถเบนซ์คันใหญ่โตมาขับขี่ที่เกินความพอดี จนสร้างภาระหรือความเดือดร้อนให้กับชีวิต ควรทำอะไรให้พอดีพอเหมาะสมกับฐานะของตัวเอง
ยึดติดกับงาน ค้นหาตัวเองให้เจอ ทำทุกอย่างอย่างผู้รู้จริง มีเป้าหมายที่ชัดเจนให้กับชีวิต
ภาคที่ ๖
เลือกและรักษาความสัมพันธ์กับคนให้ดี การดูแลจิตใจตัวเองและจิตใจคนที่เรารัก เป็นสิ่งที่มีความหมายอย่างแท้จริงในชีวิต
เราต้องจัดการชีวิตให้มีเวลาทุ่มเทกับสิ่งที่จะมีความหมายอย่างแท้จริง จัดสรรและทุ่มเทให้กับสิ่งสำคัญในชีวิตก่อน แบ่งหัวใจให้เรื่องสำคัญก่อน
เราทุ่มเทแรงกายแรงใจใช้เวลากับสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเรา เลือกสรรสิ่งที่มีคุณค่าต่อชีวิตจริงๆ สร้างความสุขในสิ่งที่ใกล้ตัว
สร้างความรักด้วยความบริสุทธิ์ใจ
ภาคที่ ๗
ทุกอย่างรวมลงที่ใจ ในใจเราทุกคนมีทั้งเมล็ดพันธุ์ดีและไม่ดี มีทั้งความเมตรา ความสงบ
ปัญญา ความโกรธ หงุดหงิด
อิจฉา นินทา โลภมาก
ที่สำคัญคือ วันนี้เราใส่ปุ๋ยให้กับเมล็ดพันธุ์ใด
เมล็ดพันธุ์นั้นก็จะเติบโตและเบ่งบานในใจเรา
ดังนั้นในการที่จะทำความดีหรือความชั่ว หรือจะทำกิจการงานใดๆก็ตาม จะสำเร็จหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับใจเรา ถ้าเราท้อ
ใจเราก็จะท้อตาม งานที่ทำก็จะไม่สำเร็จ"
หนังสือ”เข็มทิศชีวิต” เป็นแนวทางในการพัฒนาจิตใจของคนให้มีความตั้งมั่นในการดำเนินชีวิต
โดยให้หยุดทบทวนตัวเอง รู้จักกฎของชีวิต วางใจให้ถูกต้อง กำหนดเป้าหมายให้ถูกต้อง
ใช้ชีวิตให้ตรงเป้าหมาย เลือกรักษาความสัมพันธ์กับคนให้ดี
สุดท้ายทุกสิ่งทุกอย่างต้องรวมอยู่ที่ใจ
ทางออกทุกอย่างของชีวิตรวมลงที่การฝึกใจเพียงอย่างเดียว เพียงเริ่มกลับมารู้ที่ใจตัวเอง รู้สึกตัว “ตื่นขึ้นมาก็เห็นธรรมชาติที่ไม่คงที่ ไม่มั่นคงแน่นอน ไม่ได้ดั่งใจตัวเองและสิ่งรอบตัว” หากต้องการพัฒนาสมรรถนะของตัวท่านเองในด้านวุฒิภาวะทางอารมณ์ แนะนำให้คุณลองถามตัวเองว่า “ วันนี้คุณเช็คเข็มทิศหรือยัง”
จัดทำโดย
นาย ชาริบ เระวัง 5550011013
นาย มูฮัมหมัดซอฟี ซียง 5550011104
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น