วันอาทิตย์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2556

เข็มทิศชีวิต “แผนที่ดูจิต บริหารชีวิต สู่อิสรภาพการเงินและจิตใจ”

  ชื่อผู้แต่ง :      ฐิตินาถ  ณ  พัทลุง    


เข็มทิศชีวิต แผนที่ดูจิต  บริหารชีวิต  สู่อิสรภาพการเงินและจิตใจ
             "  ทุกคนมี เข็มทิศ ประจำจิตที่ชี้ไปยังความสุขที่แท้จริงตลอดเวลา แต่ผู้คนหาตระหนักไม่ว่าตนมีเข็มทิศดังกล่าว หรือไม่ก็ละเลยที่จะใช้เข็มทิศดังกล่าวให้เกิดประโยชน์ ผลก็คือชีวิตก้าวไปผิดที่ผิดทาง ถูกความทุกข์ท่วมท้น ผู้เขียนได้เสนอแนวทางการใช้เข็มทิศชีวิต ในการปรับภาวะทางอารมณ์ ให้สามารถดำรงชีวิตได้อย่างมีความสุข โดยแบ่งการเสนอเป็นภาค  จำนวน  ๗  ภาค  โดยสังเขป  ดังนี้
                ภาคที่  ๑  หยุดทบทวนตัวเอง   หลายคนเหนื่อยเพราะเผลอไปวุ่นวายกับสิ่งต่างๆอยู่ตลอดเวลา พอใจเหน็ดเหนื่อยปั่นป่วน ทำให้คิดมากแก้ปัญหาผิดที่ เราลองกลับมาพิจารณาดูเราว่าได้ทำความสุขหล่นหายไปจากใจ  แล้วเที่ยวไปตามหาความสุขในที่ต่างๆ  เช่นในบาร์  ในคลับ  ซึ่งแท้จริงแล้วมันไม่ใช่  หากแต่ว่าความสุขที่แท้จริงมันเกิดขึ้นที่ใจของเรานี้เอง  ถ้าลองสังเกตดูผู้คนมักจะดิ้นรนไขว่คว้าสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเงินทอง  รถยนต์  บ้าน  หรือแม้กระทั่งยศตำแหน่งและอำนาจ เมื่อได้มันมาจะทำให้เรามีความสุขในระหนึ่ง  ความสุขเหล่านั้นจะอยู่กับเราไม่นาน ก็จากไปเหลือไว้แต่ความทุกข์ที่จะตามมาเมื่อเรามีความอยาก ความต้องการเพิ่มขึ้นอีก  อย่างไม่รู้จักพอไม่มีที่สิ้นสุด  ลองหันกลับมาถามตัวเองว่าเราเกิดมาทำไม ท่ามกลางความแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น เพื่อหวังว่าให้เราเหนือกว่าคนอื่น แต่เราคงลืมนึกไปว่าสักวันหนึ่งเราต้องจากโลกนี้ไป  ดังนั้นก่อนที่เราจะก้าวเดินต่อไปเราควรหยุดทบทวนสำรวจตัวเองว่าทำอะไรเพื่อใคร หรือว่า  ฟาดฟันกับคนอื่นทุกวิถีทาง
                ภาคที่ ๒  รู้กฎของชีวิต   ทั้งคนดีและคนไม่ดีก็ล้วนมีปัญหา      มีหลายคนชอบช่วยเหลือผู้อื่น   ทำบุญทำทาน  ตักบาตร สร้างวัด สร้างโรงเรียน แต่พอกลับถึงบ้านก็โกงคนอื่น  แย่งชิงของคนอื่น ส่งผลให้ชีวิตมีแต่ความวุ่นวาย  ในทางกลับกันคนที่ถูกจัดว่าเป็นคนดี ทำความดีมาตลอด แต่เมื่อถึงเวลาต้องตกงาน  อกหัก  เจ็บป่วยไม่สบาย คนดีๆก็มีทุกข์จนแทบเอาชีวิตไม่รอดเหมือนกัน  เมื่อรู้เช่นนี้แล้วแนวทางแก้ปัญหาต้องรู้จักฝึกตน ฝึกใจ โดยการปฏิบัติธรรมคำนึงถึงคำสอนของพระพุทธเจ้า ที่ไม่ให้ยึดติดกับสิ่งใด หากเรามองว่าเป็นของของเรา  ทุกข์ก็จะเป็นของเรา   ลองพิจารณาจิตใจของตัวเอง เพื่อฝึกความรู้สึกของตัวเอง  ตามดูความรู้สึกนึกคิด
ของตัวเอง เราจะพบว่าความรู้สึกนึกคิดร้ายๆจะเป็นความทรงจำที่ทิ่มแทงใจเราตลอดเวลา  เปรียบเช่นควันไฟ ที่เกิดขึ้นและจางหายไปในที่สุด  รู้สึกถึงแรงผลักที่เกิดขึ้นในใจเราเห็นความไม่เที่ยงไม่เป็นแก่นสารของชีวิต
                 ภาคที่  ๓  วางใจให้ถูกต้อง   ชีวิตไม่สามารถเลือกให้มีแต่สิ่งที่เราพอใจไม่ได้  แต่สามารถเลือกรู้ทันจิตใจตัวเองที่กำลังหยิบฉวยก้อนหนามมาทำร้ายตัวเอง  เราสามารถจัดการกับปัญหาด้วยใจไม่ให้เกิดทุกข์ เราจะต้องเป็นผู้รู้ตลอดเวลา  อันเปรียบเหมือนเป็นเข็มทิศคอยกำกับชีวิตได้ตลอดเวลา เราต้องรู้ทันใจตัวเอง รู้และเข้าใจธรรมชาติ รู้ทันความกลัววินาทีนี้เราลองสำรวจใจตัวเอง เราทนอยู่ทนทำ ทนจมลงไปในวิถีชีวิตที่ไม่ต้องการเพราะกลัวอะไร
                ภาคที่  ๔  กำหนดเป้าหมายให้ถูกต้อง   ความมีสติปัญญา  คือ  กุญแจดอกสำคัญที่ทำให้หนทางชีวิตของมนุษย์แต่ละคนแตกต่างกัน ต้องรู้จักความพอเพียง ชีวิตก็จะมีความสุขไม่ติดกับดักของชีวิต ที่มักมองถึงความฟุ้งเฟ้อ การสร้างภาพลักษณ์ให้ดูดีในสายตาของคนอื่น แต่เบื้องหลังเป็นภาระที่สร้างความหนักใจให้กับตัวเอง หลายคนมักเกิดความผิดพลาดในการดำรงชีวิตเพราะคิดผิด เพราะถูกหลอกทั้งที่รู้ว่าเขาหลอก
                ภาคที่  ๕  ใช้ชีวิตให้ตรงเป้าหมาย  กำหนดเป้าหมายผิดพาชีวิตดิ่งเหว  ในขณะที่เป้าหมายถูกต้องแต่เดินผิดทิศก็พาชีวิตลงเหวเช่นกัน  เราจึงต้องมีเข็มทิศไว้คอยตรวจสอบในสิ่งที่เราเลือกซื้อ เลือกใช้ เลือกทำ ว่าสอดคล้องกับเป้าหมายชีวิตและไม่ได้กำลังพาเราไปทิศทางตรงกันข้ามกับสิ่งที่เราต้องการ  วันนี้เราทุกข์กับสิ่งนอกตัวเราจนลืมชีวิตไปหรือเปล่า  ลองสำรวจสิ่งที่เราเลือกมาใส่ไว้ในชีวิตว่าเป็นภาระมากกว่าความสุขหรือไม่ เช่นการเป็นหนี้เพื่อหาซื้อเพชรเม็ดโตมาใส่  หรือซื้อรถเบนซ์คันใหญ่โตมาขับขี่ที่เกินความพอดี  จนสร้างภาระหรือความเดือดร้อนให้กับชีวิต  ควรทำอะไรให้พอดีพอเหมาะสมกับฐานะของตัวเอง ยึดติดกับงาน  ค้นหาตัวเองให้เจอ  ทำทุกอย่างอย่างผู้รู้จริง  มีเป้าหมายที่ชัดเจนให้กับชีวิต
                ภาคที่  ๖  เลือกและรักษาความสัมพันธ์กับคนให้ดี   การดูแลจิตใจตัวเองและจิตใจคนที่เรารัก  เป็นสิ่งที่มีความหมายอย่างแท้จริงในชีวิต  เราต้องจัดการชีวิตให้มีเวลาทุ่มเทกับสิ่งที่จะมีความหมายอย่างแท้จริง  จัดสรรและทุ่มเทให้กับสิ่งสำคัญในชีวิตก่อน  แบ่งหัวใจให้เรื่องสำคัญก่อน  เราทุ่มเทแรงกายแรงใจใช้เวลากับสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเรา  เลือกสรรสิ่งที่มีคุณค่าต่อชีวิตจริงๆ  สร้างความสุขในสิ่งที่ใกล้ตัว สร้างความรักด้วยความบริสุทธิ์ใจ 
                ภาคที่  ๗  ทุกอย่างรวมลงที่ใจ  ในใจเราทุกคนมีทั้งเมล็ดพันธุ์ดีและไม่ดี  มีทั้งความเมตรา  ความสงบ  ปัญญา  ความโกรธ  หงุดหงิด  อิจฉา  นินทา  โลภมาก  ที่สำคัญคือ วันนี้เราใส่ปุ๋ยให้กับเมล็ดพันธุ์ใด เมล็ดพันธุ์นั้นก็จะเติบโตและเบ่งบานในใจเรา  ดังนั้นในการที่จะทำความดีหรือความชั่ว หรือจะทำกิจการงานใดๆก็ตาม  จะสำเร็จหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับใจเรา  ถ้าเราท้อ  ใจเราก็จะท้อตาม งานที่ทำก็จะไม่สำเร็จ"

                หนังสือเข็มทิศชีวิต เป็นแนวทางในการพัฒนาจิตใจของคนให้มีความตั้งมั่นในการดำเนินชีวิต โดยให้หยุดทบทวนตัวเอง รู้จักกฎของชีวิต วางใจให้ถูกต้อง กำหนดเป้าหมายให้ถูกต้อง ใช้ชีวิตให้ตรงเป้าหมาย เลือกรักษาความสัมพันธ์กับคนให้ดี สุดท้ายทุกสิ่งทุกอย่างต้องรวมอยู่ที่ใจ  ทางออกทุกอย่างของชีวิตรวมลงที่การฝึกใจเพียงอย่างเดียว  เพียงเริ่มกลับมารู้ที่ใจตัวเอง  รู้สึกตัว ตื่นขึ้นมาก็เห็นธรรมชาติที่ไม่คงที่  ไม่มั่นคงแน่นอน ไม่ได้ดั่งใจตัวเองและสิ่งรอบตัว  หากต้องการพัฒนาสมรรถนะของตัวท่านเองในด้านวุฒิภาวะทางอารมณ์  แนะนำให้คุณลองถามตัวเองว่า  วันนี้คุณเช็คเข็มทิศหรือยัง


               จัดทำโดย

นาย ชาริบ                เระวัง    5550011013
นาย มูฮัมหมัดซอฟี  ซียง      5550011104





















ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น